28 มี.ค. 2556

นิโค โรบิ้น


นิโค โรบิ้น เทพวิบัติผู้ถูกโลกตามล่า

            นิโค โรบิ้น (Nico Robin) จากเรื่อง One Piece ฉายา “เทพวิบัติ” (Demon Child) โรบิ้นเป็นนักประวัติศาสตร์ที่เปรียบเหมือนมันสมองของกลุ่มหมวกฟางที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่มและเธอคือผู้เหลือรอดเพียงคนเดียวที่สามารถอ่านบันทึกอักษรบนโพเนกรีฟได้

นิโค โรบิ้น

            โรบิ้นเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกของวันพีซ เธอมีพลังจากผลดอกไม้ “ฮานะ ฮานะ” (Hana Hana no Mi: Flower Flower Fruit) ผลปิศาจสายพารามีเซีย สามารถงอกส่วนต่างๆของร่างกายออกจากร่างของศัตรูหรือขยายให้ใหญ่เพื่อเพิ่มพลังในการโจมตีศัตรู และด้วยบุคลิกที่เป็นคนพูดน้อยและมักจะยิ้มแบบมีเลศนัยทำให้เธอดูเป็นคนลึกลับ

โรบิ้นแอบขึ้นเรือแมรี่

            โรบิ้นปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะคู่หูของคล็อกโคไดล์แห่งองค์กรบาล็อกเวิร์คส์ภายใต้โค้ดเนม “มิสออสซันเด” (Miss All Sunday) เพื่ออ่านข้อความในโพเนกรีฟที่อยู่ใต้ปราสาทของอาณาจักรอลาบาสต้า ภายหลังการล่มสลายขององค์กรบาล็อกเวิร์ค โรบิ้นได้รับการช่วยเหลือจากลูฟี่ เธอแอบขึ้นเรือแมรี่และขอร่วมเดินทางไปด้วยซึ่งลูฟี่ก็ยินยอมเพราะคิดว่าเธอไม่ใช่คนร้าย มีเพียงโซโลคนเดียวเท่านั้นที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ไว้ใจเธอ

โรบิ้น โอลิเวีย

            ในวัยเด็กโรบิ้นเกิดและเติบโตบนเกาะโอฮาร่า (Ohara Island) เธอเฝ้ารอว่าสักวันจะได้พบกับ “นิโค โอลิเวีย” (Nico Olvia) คุณแม่ของเธอที่ออกเดินทางไปจากเกาะเพื่อค้นคว้าประวัติศาสตร์ต้องห้าม โอลิเวียหนีการตามล่าของทหารเรือมายังโอฮาร่าอีกครั้งและได้พบกับโรบิ้น ทว่าคนของรัฐบาลก็ได้ตามเธอมาเพื่อจับกุมเธอพร้อมด้วยมีคำสั่งบัสเตอร์คอลถล่มเกาะโอฮาร่า


            หลังจากโอลิเวียตายไป โรบิ้นที่กำลังหลบหนีและได้รับการช่วยเหลือจากคนยักษ์ “ฮักวา ดี.เซาโล” (Hagwor D.Sauro) ที่เคยช่วยให้โอลิเวียหนีรอดมาแล้วครั้งหนึ่ง เซาโลถูกพลังน้ำแข็งของอาโอคิจิเล่นงานจนตัวเองตาย อาโอคิจิบอกให้โรบิ้นหนีขึ้นเรือผู้อพยพแต่เรือนั้นกลับถูกถล่มโดยคำสั่งของอาคาอินุสร้างความไม่พอใจแก่อาโอคิจิอย่างมาก อย่างไรก็ดีอาโอคิจิใช้พลังน้ำแข็งชี้นำทางให้โรบิ้นพายเรือลำเล็กหนีไปจากเกาะโอฮาร่าและถูกตั้งค่าหัวไว้ที่ 79 ล้านเบรีด้วยวัยเพียง 8 ปี

โรบิ้นถูกพลังน้ำแข็งของอาโอคิจิ

            การปรากฏตัวอีกครั้งของอาโอคิจิทำให้กลุ่มหมวกฟางรับรู้ถึงความแตกต่างด้านพลัง อาโอคิจิบอกกับกลุ่มหมวกฟางว่าสักวันโรบิ้นจะนำความเดือดร้อนมาให้ โรบิ้นรู้สึกหวาดกลัวอาโอคิจิจนแทบทำอะไรไม่ถูกแต่ได้โซโลเข้ามาขวางการโจมตีครั้งแรกเอาไว้ ลูฟี่เห็นท่าไม่ดีจึงท้าดวลกับอาโอคิจิตัวต่อตัวเพื่อเปิดทางให้พวกพ้องหนี

โรบิ้นลอบสังหารไอซ์เบิร์ก

            โรบิ้นพบกับ CP9 ที่เกาะวอเตอร์เซเว่นและได้ตกลงร่วมมือกันลอบสังหารไอซ์เบิร์กโดยโยนความผิดให้กลุ่มหมวกฟาง โรบิ้นบอกลากับพวกลูฟี่และติดตาม CP9 ไปยังเอนิเอสล็อบบี้เพื่อให้กลุ่มหมวกฟางรอดพ้นจากคำสั่งบัสเตอร์คอล

โรบิ้นถูกจับกุมไปยังเอนิเอสล็อบบี้

            หลังจากรู้ความจริงว่าสิ่งที่โรบิ้นทำนั้นก็เพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง พวกลูฟี่พร้อมกับตระกูลแฟร้งกี้จึงออกเดินทางไปยังเอนิเอสล็อบบี้จัดการกับ CP9 และช่วยโรบิ้นออกมาได้สำเร็จ

โรบิ้นบนเทคิวล่า วูล์ฟ

            ภายหลังพ่ายแพ้แก่คุมะบนหมู่เกาะชาบอนดี้ โรบิ้นถูกความสามารถของคุมะวาร์ปไปยังเทคิวล่า วูล์ฟ (Tequila Wolf) ดินแดนแห่งการก่อสร้างที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นทาสที่ถูกรวบรวมมาจากที่ต่างๆทั่วโลก

โรบิ้นกับคณะปฏิวัติ

            ระหว่างนั้นคณะปฏิวัติได้เข้าโจมตีทหารที่คุมการก่อสร้างสะพานข้ามโลกทำให้ทาสได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระและได้พบกับโรบิ้นจึงเชิญไปอยูด้วยกันจนกระทั่งเวลาผ่านไปสองปี

โรบิ้นกับภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

            โรบิ้นเดินทางมายังหมู่เกาะาบอนดี้อีกครั้งด้วยรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปมากโดยเฉพาะการเสยผมไปด้านหลังแทนการไว้ผมม้าและคาดแว่นตาไว้บนหน้าผากแต่ยังคงยิ้มและพูดน้อยเหมือนเดิม

โรบิ้นได้อ่านโพเนกลีฟที่ป่าทะเล

            กลุ่มหมวกฟางเดินทางมาถึงเกาะเงือก โรบิ้นได้อ่านโพเนกลีฟที่ป่าทะเลและพบข้อความที่เขียนไว้โดยจอยบอย (Joy Boy) ผู้รอดชีวิตจากโอฮาร่า มนุษย์ผู้มีชีวิตในช่วงร้อยปีแห่งความว่างเปล่า สิ่งที่เขียนนั้นต้องการสื่อถึงเจ้าหญิงเงือกที่เกาะในตอนนี้ ข้อความบันทึกไว้ว่าขอโทษที่ผิดสัญญา สัญญาที่ว่าวันหนึ่งจะมีคนที่เป้นตัวแทนของจอยบอยมาทำสัญญาแทน นั่นคือตำนานที่ส่งต่อมาในตระกูลเงือก มนุษย์เงือกจึงปกป้องโนอาที่เป็นคำสัญญาของบรรพบุรุษไว้

ความสามารถใหม่ของโรบิ้น

            ในการต่อสู้ที่ลานกว้างกับโจรสลัดเงือกใหม่ โรบิ้นจัดการแฮมม่อนด์ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญได้อย่างง่ายดายและช่วยปลดปล่อยทาสให้เป็นอิสระ ในช่วงงานเลี้ยงโรบิ้นได้พูดคุยกับราชาเนปจูนถึงที่มาของโพเนกลีฟและความลับสำคัญที่ว่าองค์หญิงชิราโฮชิคือ “โพไซดอน” ที่มีพลังในการทำลายโลกได้ เป็นหนึ่งในอาวุธโบราณทั้งสามอันได้แก่ พลูตั้น ยูเรนัส และโพไซดอน

โรบิ้น โซโล ลูฟี่ อุซป vs มังกร

            กลุ่มหมวกฟางเดินทางมาถึงพั้งค์ ฮาซาร์ด โรบิ้นลงเรือมินิแมรี่ไปสำรวจเกาะเพลิงกับลูฟี่โซโลและอุซป ภายหลังจัดการมังกรพวกเธอข้ามทะเลไปยังเกาะน้ำแข็งด้วยเรือกล้วยของอุซป ระหว่างทางเรือถูกโจมตีจนเธอตกทะเลแต่บรู๊คได้มาช่วยไว้ทันทำให้เธอขึ้นมาบนเกาะฝั่งน้ำแข็งได้สำเร็จ
            โรบิ้นทำตามแผนการในการจับตัวซีซาร์ คลาวน์แต่ถูกจับเพราะพลังของผลแก๊ส โรบิ้นหลุดออกจากกรงขังมาได้และเริ่มการโต้กลับคลาวน์ตามแผนการของลอว์ที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มหมวกฟาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น