โรโรโนอา โซโล โจรสลัดตาเดียวผู้ใช้เพลงดาบสามเล่ม
โรโรโนอา โซโล (Roronoa Zoro) นักดาบตาเดียวผู้ใช้เพลงดาบสามเล่มจากเรื่อง One Piece อดีตนักล่าโจรสลัดที่หันกลับมาเป็นโจรสลัดเพื่อเป้าหมายในการเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนสมัยเด็กและเป็นหนึ่งในซูเปอร์โนวาที่โลกกำลังจับจ้อง
โซโลเป็นสมาชิกคนแรกของกลุ่มหมวกฟางและเป็นคนที่เข้าใจลูฟี่ได้ดีที่สุดจนอาจเรียกได้ว่าเป็นมือขวาของลูฟี่ เขาเติบโตมากับสำนักดาบ โดโจ (Dojo) ในหมู่บ้านชิโมสุกิ (Shimotsuki) ทะเลอีสต์บลู เขามีร่างกายที่แข็งแรงกว่าเด็กทั่วไปและมีความมุ่งมั่นในการฝึกฝนวิชาดาบจนเป็นที่ยอมรับของทุกคนในสำนัก
แม้จะได้รับคำชื่นชมในความสามารถแต่เขากลับไม่สามารถเอาชนะ “คุอินะ” (Kuina) ลูกสาวโรงฝึกได้สักครั้ง ขณะที่โซโลพยายามพัฒนาเพลงดาบของเขาเพื่อเอาชนะเขากลับได้รับรู้ความรู้สึกของคุอินะที่เธอไม่สามารถเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกได้เพราะร่างกายที่เป็นหญิงจะมีช่วงเวลาที่อ่อนแอ โซโลสัญญากับคุอินะว่าตนจะฝึกให้หนักมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่าเพื่อชดเชยในส่วนของคุอินะ ขอเพียงไม่ให้เธอละทิ้งความฝันที่จะเป็นนักดาบอันดับหนึ่ง จนเมื่อถึงวันประลองของทั้งคู่คุอินะก็ได้จากไป โซโลรู้สึกเสียใจจึงขอดาบของคุอินะเอาไว้เพื่อให้คิดว่าเธอจะอยู่กับเขาเสมอ
ชื่อเสียงของโซโลเริ่มโด่งดังขึ้นในฐานะนักล่าค่าหัวโจรสลัดผู้ใช้วิชาดาบสามเล่ม ในขณะถูกจับเพราะช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่งเขาก็ได้พบกับลูฟี่ ทั้งสองคนต่อสู้ร่วมกันจนเอาชนะนายพลมอร์แกนได้สำเร็จ หลังจากนั้นโซโลจึงตัดสินใจร่วมเดินทางไปกับลูฟี่ในฐานะโจรสลัด
โซโลพบกับมิฮอว์คนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกที่กำลังไล่ล่าโจรสลัดดอนครีก (Don Krieg) เขาท้าดวลดาบกับมิฮอว์คอย่างไม่ลังเลและพ่ายแพ้อย่างง่ายดายเพราะความเหนือชั้นกว่ามากของเทพโจรสลัดผู้นี้ โซโลหันหน้าไปหามิฮอว์คและกล่าวว่ารอยแผลที่กลางหลังคือความอับอายของนักดาบ มิฮอว์ครู้สึกถูกใจในความเด็ดเดี่ยวของโซโลจึงใช้ดาบดำฟันไปที่หน้าอกของโซโลเป็นทางยาว โซโลถูกช่วยเหลือขึ้นมาจากทะเลพร้อมกับหลั่งน้ำตาและสัญญากับลูฟี่ว่าจนกว่าจะได้เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกเขาจะไม่แพ้ใครอีก
โซโลถูกตั้งค่าหัวครั้งแรกไว้ที่ 60 ล้านเบรีหลังจากเอาชนะดาซูบอเนส (มิสเตอร์วัน) พร้อมกับการล่มสลายขององค์กรบาล็อกเวิร์คส์ที่มีครอคโคไดล์เป็นหัวหน้าและค่าหัวเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านเบรีหลังจากเอาชนะคาคุได้ในการบุกช่วยเหลือโรบิ้นที่เอนิเอสล็อบบี้
อาวุธดาบสามเล่มที่โซโลใช้ในปัจจุบันประกอบด้วยดาบสีขาว “วาโด อิจิมอนจิ” (Wado Ichimonji) ดาบของคุอินะที่โซโลขอเอาไว้เพื่อให้รู้สึกว่าคุอินะจะอยู่กับเขาตลอดไป (ใช้ปากคาบ) ดาบสีแดง “ซังได คิเทซึ” (Sandai Kitetsu) ดาบอาถรรพ์ที่ได้มาจากล็อคทาว์น (มือซ้าย) และดาบดำ “โชอุซุย” (Shusui) ดาบที่ได้มาจากการสู้กับซามุไรเจเนรัลซอมบี้ริวมะ (มือขวา)
ภายหลังกลุ่มหมวกฟางเอาชนะเก็กโค่ โมเรียที่เป็นถึงเทพโจรสลัดได้ บาโซโลมิว คุมะซึ่งเป็นเทพโจรสลัดอีกคนได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าและจะจับกุมกลุ่มหมวกฟาง โซโลที่ต้องการปกป้องทุกคนจึงเข้าต่อสู้แต่ต้องพ่ายแพ้พลังอันแข็งแกร่งของคุมะ
คุมะต้องการจับลูฟี่แต่ถูกโซโลเข้ามาขวางอีกครั้ง คราวนี้เขามีข้อเสนอให้คุมะนำหัวของเขาไปแทน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังมีค่าหัวไม่มากแต่ในอนาคตเขาจะต้องได้เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก การเอาหัวของเขาไปแทนจึงมีค่าเท่าเทียมกัน คุมะใช้ความสามารถจากผลปิศาจผลักเอาความเจ็บปวดจากร่างกายของลูฟี่ออกมารวมกันเพื่อให้โซโลรับรู้ความรู้สึกของชายที่ตนเองยอมแลกชีวิตด้วยซึ่งหากโซโลไม่สามารถผ่านไปได้ความเจ็บปวดนี้จะนำพาเขาไปสู่ความตาย
ความพ่ายแพ้อีกครั้งต่อคิซารุและคุมะบนหมู่เกาะชาบอนดี้ทำให้โซโลถูกวาร์ปไปยังเกาะคุรากานะ (Kuragana) ของมิฮอว์คและพบกับเพโรน่า (Perona) ที่ถูกคุมะวาร์ปมาที่นี่เช่นกัน โซโลต้องต่อสู้กับฝูงลิงบาบูนที่มีวิวัฒนาการใกล้เคียงมนุษย์สามารถเลียนแบบการต่อสู้ได้ในเวลาอันสั้นจนกระทั่งได้พบกับมิฮอว์คที่เดินทางกลับมาจากมารีนฟอร์ด
โซโลได้รู้เรื่องราวร้ายๆที่เกิดขึ้นกับลูฟี่จากมิฮอว์ค เขาคิดว่าเป็นเพราะตัวเองอ่อนแอเกินไปจนไม่สามารถช่วยใครได้ โซโลตัดสินใจคุกเข่าขอร้องให้มิฮอว์คสอนวิชาดาบให้ มิฮอว์คตอบปฏิเสธและคิดว่าตนเองประเมินโซโลสูงเกินไปแต่เมื่อรู้ถึงเหตุผลที่โซโลขอร้องว่าเพื่อช่วยให้ลูฟี่เป็นราชาโจรสลัดและเพื่อโค่นล้มมิฮอว์คเองทำให้เขารู้สึกดีใจและยอมสอนวิชาดาบให้จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองปี
โซโลเดินทางมายังหมู่เกาะชาบอนดี้อีกครั้งตามข้อความที่ลูฟี่ส่งออกไปพร้อมกับรอยแผลที่ตาข้างซ้าย โซโลเดินทางมาถึงเป็นคนแรกโดยมีเพโรน่าช่วยนำทาง ความสามารถของโซโลในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อสองปีก่อนมาก เขาสามารถผ่าเรือลำใหญ่และเอาชนะแปซิฟิสต้าได้อย่างง่ายดายและมีฮาคิคุณสมบัติแห่งเกราะที่แข็งแกร่ง
กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเดินทางมาถึงเกาะเงือก โซโลปกป้องพวกนามิจากการโจมตีด้วยความเข้าใจผิดของเนปจูน เขาจัดการกับโฮดี้ โจนส์ลงอย่างง่ายดายแต่ไม่อาจหนีจากคลื่นน้ำได้จึงถูกจับเอาไว้พร้อมกับบรู๊คและอุซป
โซโลหลุดจากกรงขังและไปสมทบกับพวกลูฟี่ที่ลานกว้าง เขาเข้าปกป้องโรบิ้นที่ไม่ทันระวังตัวจัดการกับฮันโซซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มโจรสลัดเงือกใหม่อย่างง่ายดายเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าสู่โลกใหม่
กลุ่มหมวกฟางเดินทางออกจากเกาะเงือกมาถึงพั้งค์ ฮาซาร์ด โซโลลงเรือมินิแมรี่ไปสำรวจเกาะเพลิงพร้อมกับลูฟี่ โรบิ้นและอุซป เขาได้พบกับมังกรยักษ์ที่มีร่างกายอันแข็งแกร่งแต่สามารถจัดการได้ด้วยวิชาดาบเดียวและจัดการกินเนื้อมังกรเสียก่อนจะข้ามทะเลไปยังเกาะน้ำแข็งด้วยเรือกล้วยของอุซป ระหว่างทางถูกกระสุนปืนใหญ่โจมตีจนเรือล่มแต่โชคดีที่บรู๊คมาช่วยเอาไว้ทัน
โซโลตามมาช่วยคินเอม่อนหาร่างกายส่วนลำตัวและการได้เห็นเพลงดาบที่ผ่าระเบิดได้ของคินเอม่อนทำให้โซโลรู้สึกถูกใจ โซโลวิ่งหนีสไลมเข้าไปในสถานที่ทดลองของซีซาร์จนได้พบกับลูฟี่ เขาเตือนลูฟี่ไม่ให้ประมาทเพราะได้ก้าวเข้าสู่โลกใหม่แล้ว โซโลพบกับทาชิงิอีกครั้งแต่ไม่ได้ปะมือกัน
โซโลสู้กับโมเน่เพื่อถ่วงเวลาให้พวกนามิไปช่วยเด็กๆ โซโลไม่ต้องการต่อสู้กับผู้หญิงเขาจึงทำได้เพียงรับการโจมตีของโมเน่จนกระทั่งทาชิงิปรากฏตัว โซโลดูการต่อสู้ของโมเน่กับทาชิงิจนเมื่อทาชิงิกำลังจะเสียท่าเขาจึงยื่นมือเข้าช่วยและผ่าร่างของโมเน่เป็นสองซีกแต่ไม่ได้ใช้ฮาคิ
โซโลเป็นสมาชิกคนแรกของกลุ่มหมวกฟางและเป็นคนที่เข้าใจลูฟี่ได้ดีที่สุดจนอาจเรียกได้ว่าเป็นมือขวาของลูฟี่ เขาเติบโตมากับสำนักดาบ โดโจ (Dojo) ในหมู่บ้านชิโมสุกิ (Shimotsuki) ทะเลอีสต์บลู เขามีร่างกายที่แข็งแรงกว่าเด็กทั่วไปและมีความมุ่งมั่นในการฝึกฝนวิชาดาบจนเป็นที่ยอมรับของทุกคนในสำนัก
แม้จะได้รับคำชื่นชมในความสามารถแต่เขากลับไม่สามารถเอาชนะ “คุอินะ” (Kuina) ลูกสาวโรงฝึกได้สักครั้ง ขณะที่โซโลพยายามพัฒนาเพลงดาบของเขาเพื่อเอาชนะเขากลับได้รับรู้ความรู้สึกของคุอินะที่เธอไม่สามารถเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกได้เพราะร่างกายที่เป็นหญิงจะมีช่วงเวลาที่อ่อนแอ โซโลสัญญากับคุอินะว่าตนจะฝึกให้หนักมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่าเพื่อชดเชยในส่วนของคุอินะ ขอเพียงไม่ให้เธอละทิ้งความฝันที่จะเป็นนักดาบอันดับหนึ่ง จนเมื่อถึงวันประลองของทั้งคู่คุอินะก็ได้จากไป โซโลรู้สึกเสียใจจึงขอดาบของคุอินะเอาไว้เพื่อให้คิดว่าเธอจะอยู่กับเขาเสมอ
ชื่อเสียงของโซโลเริ่มโด่งดังขึ้นในฐานะนักล่าค่าหัวโจรสลัดผู้ใช้วิชาดาบสามเล่ม ในขณะถูกจับเพราะช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่งเขาก็ได้พบกับลูฟี่ ทั้งสองคนต่อสู้ร่วมกันจนเอาชนะนายพลมอร์แกนได้สำเร็จ หลังจากนั้นโซโลจึงตัดสินใจร่วมเดินทางไปกับลูฟี่ในฐานะโจรสลัด
โซโลพบกับมิฮอว์คนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกที่กำลังไล่ล่าโจรสลัดดอนครีก (Don Krieg) เขาท้าดวลดาบกับมิฮอว์คอย่างไม่ลังเลและพ่ายแพ้อย่างง่ายดายเพราะความเหนือชั้นกว่ามากของเทพโจรสลัดผู้นี้ โซโลหันหน้าไปหามิฮอว์คและกล่าวว่ารอยแผลที่กลางหลังคือความอับอายของนักดาบ มิฮอว์ครู้สึกถูกใจในความเด็ดเดี่ยวของโซโลจึงใช้ดาบดำฟันไปที่หน้าอกของโซโลเป็นทางยาว โซโลถูกช่วยเหลือขึ้นมาจากทะเลพร้อมกับหลั่งน้ำตาและสัญญากับลูฟี่ว่าจนกว่าจะได้เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกเขาจะไม่แพ้ใครอีก
โซโลถูกตั้งค่าหัวครั้งแรกไว้ที่ 60 ล้านเบรีหลังจากเอาชนะดาซูบอเนส (มิสเตอร์วัน) พร้อมกับการล่มสลายขององค์กรบาล็อกเวิร์คส์ที่มีครอคโคไดล์เป็นหัวหน้าและค่าหัวเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านเบรีหลังจากเอาชนะคาคุได้ในการบุกช่วยเหลือโรบิ้นที่เอนิเอสล็อบบี้
อาวุธดาบสามเล่มที่โซโลใช้ในปัจจุบันประกอบด้วยดาบสีขาว “วาโด อิจิมอนจิ” (Wado Ichimonji) ดาบของคุอินะที่โซโลขอเอาไว้เพื่อให้รู้สึกว่าคุอินะจะอยู่กับเขาตลอดไป (ใช้ปากคาบ) ดาบสีแดง “ซังได คิเทซึ” (Sandai Kitetsu) ดาบอาถรรพ์ที่ได้มาจากล็อคทาว์น (มือซ้าย) และดาบดำ “โชอุซุย” (Shusui) ดาบที่ได้มาจากการสู้กับซามุไรเจเนรัลซอมบี้ริวมะ (มือขวา)
ภายหลังกลุ่มหมวกฟางเอาชนะเก็กโค่ โมเรียที่เป็นถึงเทพโจรสลัดได้ บาโซโลมิว คุมะซึ่งเป็นเทพโจรสลัดอีกคนได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าและจะจับกุมกลุ่มหมวกฟาง โซโลที่ต้องการปกป้องทุกคนจึงเข้าต่อสู้แต่ต้องพ่ายแพ้พลังอันแข็งแกร่งของคุมะ
คุมะต้องการจับลูฟี่แต่ถูกโซโลเข้ามาขวางอีกครั้ง คราวนี้เขามีข้อเสนอให้คุมะนำหัวของเขาไปแทน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังมีค่าหัวไม่มากแต่ในอนาคตเขาจะต้องได้เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก การเอาหัวของเขาไปแทนจึงมีค่าเท่าเทียมกัน คุมะใช้ความสามารถจากผลปิศาจผลักเอาความเจ็บปวดจากร่างกายของลูฟี่ออกมารวมกันเพื่อให้โซโลรับรู้ความรู้สึกของชายที่ตนเองยอมแลกชีวิตด้วยซึ่งหากโซโลไม่สามารถผ่านไปได้ความเจ็บปวดนี้จะนำพาเขาไปสู่ความตาย
ความพ่ายแพ้อีกครั้งต่อคิซารุและคุมะบนหมู่เกาะชาบอนดี้ทำให้โซโลถูกวาร์ปไปยังเกาะคุรากานะ (Kuragana) ของมิฮอว์คและพบกับเพโรน่า (Perona) ที่ถูกคุมะวาร์ปมาที่นี่เช่นกัน โซโลต้องต่อสู้กับฝูงลิงบาบูนที่มีวิวัฒนาการใกล้เคียงมนุษย์สามารถเลียนแบบการต่อสู้ได้ในเวลาอันสั้นจนกระทั่งได้พบกับมิฮอว์คที่เดินทางกลับมาจากมารีนฟอร์ด
โซโลได้รู้เรื่องราวร้ายๆที่เกิดขึ้นกับลูฟี่จากมิฮอว์ค เขาคิดว่าเป็นเพราะตัวเองอ่อนแอเกินไปจนไม่สามารถช่วยใครได้ โซโลตัดสินใจคุกเข่าขอร้องให้มิฮอว์คสอนวิชาดาบให้ มิฮอว์คตอบปฏิเสธและคิดว่าตนเองประเมินโซโลสูงเกินไปแต่เมื่อรู้ถึงเหตุผลที่โซโลขอร้องว่าเพื่อช่วยให้ลูฟี่เป็นราชาโจรสลัดและเพื่อโค่นล้มมิฮอว์คเองทำให้เขารู้สึกดีใจและยอมสอนวิชาดาบให้จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองปี
โซโลเดินทางมายังหมู่เกาะชาบอนดี้อีกครั้งตามข้อความที่ลูฟี่ส่งออกไปพร้อมกับรอยแผลที่ตาข้างซ้าย โซโลเดินทางมาถึงเป็นคนแรกโดยมีเพโรน่าช่วยนำทาง ความสามารถของโซโลในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อสองปีก่อนมาก เขาสามารถผ่าเรือลำใหญ่และเอาชนะแปซิฟิสต้าได้อย่างง่ายดายและมีฮาคิคุณสมบัติแห่งเกราะที่แข็งแกร่ง
กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเดินทางมาถึงเกาะเงือก โซโลปกป้องพวกนามิจากการโจมตีด้วยความเข้าใจผิดของเนปจูน เขาจัดการกับโฮดี้ โจนส์ลงอย่างง่ายดายแต่ไม่อาจหนีจากคลื่นน้ำได้จึงถูกจับเอาไว้พร้อมกับบรู๊คและอุซป
โซโลหลุดจากกรงขังและไปสมทบกับพวกลูฟี่ที่ลานกว้าง เขาเข้าปกป้องโรบิ้นที่ไม่ทันระวังตัวจัดการกับฮันโซซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มโจรสลัดเงือกใหม่อย่างง่ายดายเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าสู่โลกใหม่
กลุ่มหมวกฟางเดินทางออกจากเกาะเงือกมาถึงพั้งค์ ฮาซาร์ด โซโลลงเรือมินิแมรี่ไปสำรวจเกาะเพลิงพร้อมกับลูฟี่ โรบิ้นและอุซป เขาได้พบกับมังกรยักษ์ที่มีร่างกายอันแข็งแกร่งแต่สามารถจัดการได้ด้วยวิชาดาบเดียวและจัดการกินเนื้อมังกรเสียก่อนจะข้ามทะเลไปยังเกาะน้ำแข็งด้วยเรือกล้วยของอุซป ระหว่างทางถูกกระสุนปืนใหญ่โจมตีจนเรือล่มแต่โชคดีที่บรู๊คมาช่วยเอาไว้ทัน
โซโลตามมาช่วยคินเอม่อนหาร่างกายส่วนลำตัวและการได้เห็นเพลงดาบที่ผ่าระเบิดได้ของคินเอม่อนทำให้โซโลรู้สึกถูกใจ โซโลวิ่งหนีสไลมเข้าไปในสถานที่ทดลองของซีซาร์จนได้พบกับลูฟี่ เขาเตือนลูฟี่ไม่ให้ประมาทเพราะได้ก้าวเข้าสู่โลกใหม่แล้ว โซโลพบกับทาชิงิอีกครั้งแต่ไม่ได้ปะมือกัน
โซโลสู้กับโมเน่เพื่อถ่วงเวลาให้พวกนามิไปช่วยเด็กๆ โซโลไม่ต้องการต่อสู้กับผู้หญิงเขาจึงทำได้เพียงรับการโจมตีของโมเน่จนกระทั่งทาชิงิปรากฏตัว โซโลดูการต่อสู้ของโมเน่กับทาชิงิจนเมื่อทาชิงิกำลังจะเสียท่าเขาจึงยื่นมือเข้าช่วยและผ่าร่างของโมเน่เป็นสองซีกแต่ไม่ได้ใช้ฮาคิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น